สารสกัดข้าวบาร์เลย์
ช่วงนี้รู้สึกว่าผิวไม่สดใส ผดผื่นขึ้น หน้าก็ดูแห้งๆ ผิวไม่นุ่ม แถมริ้วรอยก็มาเยือนแบบนิด ๆ ด้วย
คุณเคยมีความรู้สุึกแบบนี้มัยคะ เวลาที่เรารู้สึกเครียด และไม่สบายใจ รู้สึกท้อแท้ ไม่มีพลังใจที่จะลุกขึ้นมาทำอะไรเลย หรือมีความรู้สึกว่าวันนี้ขี้เกียจจังเลย
ความรู้สึกเครียด และไม่สบายใจนั้น ส่งผลต่อผิวพรรณของเราอย่างชัดเจนมาก เครียดหน้าก็ดำฝ้าก็ขึ้น ผิวพรรณก็ดูหมองลงไปด้วย
วันนี้ครูดานิ จะแนะนำสูตรสบู่ ที่มีคุณสมบัติในการบำรุงผิว ทำให้ผิวชุ่มชื้น ลดการระคายเคืองผิว ทำให้ผิวนุ่มน่าสัมผัส แถมลดริ้วรอย ลดความหมองคล้ำบนใบหน้าได้ดีอีกด้วย ลดรอยดำ ทำให้ผิวเรียบเนียน ที่สำคัญนะคะทำให้ผิวดูอิ่มน้ำ ผิวดูฟูขึ้น เหมือนผิวเด็กเลยคะ
สำหรับใครที่ชอบทำสบู่ใช้เอง จะเป็นสบู่น้ำมันหรือสบู่กรีเซอรีน ก็สามารถทำสบู่สูตรนี้ได้คะ แต่ถ้าใครยังทำสบู่ไม่เป็น แนะนำ #สมัครคอร์สบุฟเฟต์เครื่องสำอางนะคะ เพราะคอร์สนี้คุณจะทำเป็นทั้งสบู่น้ำมัน และสบู่กรีเซอรีนเลยคะที่สำคัญสอนทำเบสกรีเซอรีนด้วยนะ
ตัวเอกของเราในวันนี้ก็คือ สารสกัดข้าวบาร์เลย์ สารสกัดตัวนี้มีสรรพคุณที่เลิศมากคะ ครูดานิสนใจเลยไปหาข้อมูลและได้ทำสารสกัดข้าวบาร์เลย์ออกมา แล้วนำมาใส่ในสูตรสบู่ สูตรครีม ปรากฎว่า มันเลิศอยากที่บอกจริงๆคะ
เรามาทำความรู้จักสารสกัดข้าวบาร์เลย์กันดีกว่าคะ ว่าเมื่อนำมาใส่ในสูตรสบู่ของเรา สูตรครีมของเรา แล้วดีอย่างไรมีสรรพคุณอะไรบ้าง
สารสกัดข้าวบาร์เลย์
มีชื่อภาษาอังกฤษว่า Barley Milk Extract
มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Hordeum Vulgare Extract
สรรพคุณ
>ช่วยบำรุงผิวให้ชุ่มชื้น เนียนนุ่มขึ้น
>มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยทำให้เกิดเซลล์ผิวใหม่ที่อ่อนเยาว์
>ช่วยลดเลือนริ้วรอยแห่งวัยได้ดี ต่อต้านการเกิดริ้วรอยได้ดี
>ช่วยปกป้องผิวจากการโดนแสงแดดได้
>ช่วยสร้างคลอลาเจนให้กับผิว ทำให้ผิวเราเต่งตึงมีน้ำมีนวลขึ้น
>ทำให้ผิวเรียบเนียน ลดรอยดำที่เกิดจากสิว
>ช่วยทำให้ผิวขาวกระจ่างใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
ลักษณะสารสกัด เป็นน้ำสีเหลืองขุ่นๆ
อัตราส่วนการใช้
>ใส่ในสบู่กรีเซอรีน และสบู่น้ำมัน 2-3%
>ใส่ในครีม เจล เซรั่ม โลชั่น 1-5%
คำแนะนำในการใช้
>ใส่ในสบู่กรีเซอรีน ก่อนที่จะเทสบู่ลงโมล หรือใส่ก่อนใส่น้ำหอม
>ใส่ในสบู่น้ำมันแนะนำ ให้ทำแบบกวนร้อน หรือ HP จะดีกว่าใส่ก่อนใส่น้ำหอม แล้วค่อยตักสบู่ลงโมล
>ถ้าทำสบู่น้ำมันแบบ CP หรือกวนเย็น ให้ใส่พร้อมน้ำหอม และใส่ปริมาณน้อยๆ เพราะสบู่จะเร่งเทรสเร็วมากคะ
>ใส่ในครีม เจล โลชั่น หรือเซรั่ม ควรใส่ในขั้นตอนสุดท้ายของขั้นตอนการผลิต อุณหภูมิตอนใส่สารสกัดควรจะประมาณ 40-60 องศา
>สารสกัดจะตกตะกอน ฉะนั้นเวลาใช้ควรที่จะเขย่าขวดก่อนใช้
หลังจากที่เรารู้สรรพคุณสารสกัดข้าวบาร์เลย์กันแล้ว ต่อไปเรามาลองทำสบู่กรีเซอรีนสูตรข้าวบาร์เลย์กันคะ
สูตรสบู่ข้าวบาร์เลย์
ส่วนผสม
>เบสใส 500 กรัม
>สารสกัดข้าวบาร์เลย์ 1 ช้อนชา
>สารสกัดส้ม 1 ช้อนชา
>สารสกัดเลม่อน 1/2 ช้อนชา
>สารสกัดแอปเปิ้ล 1/2 ช้อนชา
>น้ำผึ้ง 1 ช้อนชา
>กลิ่นตามชอบ 15 กรัม
>สีเหลืองทอง
อุปกรณ์ในการทำ
>หม้อสำหรับละลายเบส
>โมลซิลิโคนสำหรับเทสบู่ (เลือกตามที่เราชอบได้เลยคะ)
>กระบอกพลาสติกสำหรับผสมสบู่
>พายซิลิโคนสำหรับคนสบู่ (จะใช้ช้อนคนก็ได้ แต่ใช้คนสบู่แล้วห้ามนำไปใช้ตักอาหารอีกนะคะ)
วิธีการทำ
1.นำเบสไปหลอมให้ละลาย (จะใช้ไมโครเวฟ ก็ได้ หรือจะนำไปละลายด้วยเตาไฟฟ้า หรือเตาแก็สก็ได้ ใช้ไฟอ่อนในการละลาย)
2.เมื่อเบสละลายแล้ว ให้นำมาเทในกระบอกผสม คนให้ความร้อนลดลง
3.เมื่อความร้อนลดลงแล้วให้ใส่สารสกัดทุกตัวลงไป คนๆให้เข้ากันดี
4.ใส่สีลงไปเล็กน้อย ตามความชอบของเราว่าเราชอบสีเข้มก็ใส่เยอะๆ ถ้าชอบสีอ่อนก็ใส่น้อยๆ
5.ใส่น้ำหอมลงไป คนให้เข้ากัน
6.เทลงโมลซิลิโคนที่เตรียมไว้ (เทเบาๆ เทต่ำๆ จะได้ไม่เกิดฟองอากาศ)
7.วางสบู่ทิ้งไว้จนแข็ง ก็สามารถแกะออกมาใช้ได้เลย
ข้อแนะนำ
1.ถ้าทำออกมาแล้วฟองน้อย สามารถใส่สารเพิ่มฟองได้ แต่ในสูตรที่ครูดานิบอกไว้ ไม่มีสารเพิ่มฟอง เพราะเบสที่ใช้เป็นเบสที่ครูดานิทำเอง จะมีฟองอยู่ในตัวเบสเองแล้ว
2.ถ้าผู้ใดชีวิตติดฟอง รู้สึกว่าฟองน้อย ก็ใส่สารเพิ่มฟองลงไปได้นะคะ แนะนำให้ใช้สารเพิ่มฟอง ที่ชื่อว่า โคคามิโดโพรพิวบีเทน ใส่ในอัตราส่วน 2 ช้อนโต๊ะ (อัตราส่วนนี้เป็นอัตราส่วนเบสที่ครูดานิทำเองนะคะ) ถ้าเป็นเบสที่ซื้อมาทั่วไปไม่รับประกันว่าสบู่ที่ทำออกมาจะนิ่มหรือเปล่าฉะนั้นป้องกันสบู่นิ่มไว้ก่อนก็ใส่อัตราส่วนน้อยๆคะ
3.สามารถใส่สารสกัดอะไรเพิ่มก็ได้
4.ภาชนะที่ใช้ทำสบู่แล้ว อย่านำไปใช้ประกอบอาหารอีก ให้แยกกันออกให้ชัดเจนไปเลยคะ
ทำสบู่ได้ง่าย ๆ คุณก็ทำได้ เช่นกัน
อยากทำสบู่ได้ อยากทำสบู่เป็น
อยากทำสบู่ใช้เองแต่ไม่มีพื้นฐานใด ๆ เลย
ครูดานิแนะนำคู่มือการทำสบู่ สูตรสร้างอาชีพ
ทักมาได้นะคะ
Line : @127wsjci
หรือทางข้อความเพจ : สอนทำสบู่ เรียนทำสบู่ สอนออนไลน์ ครูดานิ
หรือเข้าไปเยี่ยมชมเวปไซด์ได้คะ
www.danidanisoap.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น