ความจริงก็คือ เกลือทะเลทำให้เป็นวิถึธรรมชาติในการทำความสะอาดล้างสารพิษ และผลัดเซลล์ผิว
และเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมมากในการผสมผสานเกลือทะเลกับสบู่ แล้วเชื่อหรือไม่ว่า ผลลัพธ์ที่ได้ เหมือนใช้สบู่ก้อนและโลชั่นในตัว
เพราะฟองสบู่ที่ได้ เป็นฟองที่มีลักษณะเหมือนครีม
สบู่เกลือทะเล วิธีการทำก็เหมือนการทำสบู่ แบบ CP คล้ายสูตรอื่น ๆ เช่นกัน แต่มีข้อแตกต่างกันตรงนี้คะ
1.เกลือทะเล เมื่อนำมาใส่ในสบู่จะทำให้สบู่ของเรามีฟองน้อยลง ฉะนั้นคุณจะต้องตั้งสูตรสบู่ของคุณให้มีฟองเยอะ ด้วยวิธีการปรับค่าน้ำมันแข็งเพิ่มขึ้น ให้ดีควรปรับอยู่ประมาณที่ 70%
น้ำมันแข็ง เช่น น้ำมันมะพร้าว น้ำมันเมล็ดในปาล์ม หรือน้ำมันแก่นปาล์ม เป็นต้น
เพราะการที่เราปรับ % น้ำมันแข็งเพิ่มขึ้นจะทำให้ฟองครีมที่เพิ่มขึ้นโดยไม่ทำให้ผิวของคุณแห้ง
2.การเติมเกลือลงในสบู่ จะเติมตอนที่เรากวนสบู่จนเนื้อข้น หรือที่เรียกว่า Light Trace
อัตราการเติมเกลือ สามารถเติมได้ตามชอบ แต่ส่วนมากนิยมใส่เกลือกันที่ 0.5-1 เท่าของน้ำมัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเนื้อสครับที่เราชอบ ชอบให้มีเนื้อสครับมาก ก็ใส่เกลือมาก ชอบเนื้อสครับน้อยก็ใส่เกลือน้อยแค่นั้นเองคะ
0.5 -1 เท่าของน้ำมัน คิดอย่างไร คิดแบบนี้จ้า
สมมุติ ว่าคุณทำสบู่ 1 แบช ใช้น้ำมันรวมกันทั้งหมด 730 กรัม
เราจะใช้เกลือประมาณ 0.5 เท่าของน้ำมัน 730 กรัม ก็
730 คูณ 0.5 เท่ากับ เราจะใช้เกลือ 365 กรัม
3.ปฎิกิริยาเมื่อเติมเกลือลงในสบู่แล้ว การทำสบู่เกลือ เมื่อเราเติมเกลือลงในสบู่แล้ว เนื่องจากเราทำแบบ CP หรือกวนเย็น สบู่ของเราจะเทรสเร็วมาก หรือแข็งตัวเร็วมาก ฉะนั้นสิ่งที่คุณจะต้องทำคือ
เมื่อคุณเทเกลือลงในสบู่แล้ว คุณจะต้องคนให้เร็ว ๆ และเทให้เร็ว ๆ
และรอให้สบู่เซ็ทตัวประมาณ 1-2 ชั่วโมง
ข้อควรระวังในการทำสบู่เกลือ
เนื่องจากใช้น้ำมันแข็งด้วย % ที่สูง เมื่อเทสบู่ลงโมลแล้ว อย่าทิ้งให้แข็งจนนานเกินไป จะต้องนำออกมาจากโมลเพื่อตัดภายในไม่กี่ชั่วโมงที่สบู่แข็งแล้ว เพราะถ้าปล่อยไว้ข้ามคืนแล้วค่อยนำออกมาตัดสบู่เกลือของคุณจะหัก หั่นได้ยาก และแตกง่าย
เอาละคะเรามาทำสบู่เกลือกันคะ
ก่อนอื่นเรามาตั้งสูตรสบู่กันก่อนคะ อย่าลืมว่าเราจะต้องใช้น้ำมันแข็งอย่างน้อย 70% สบู่เกลือสูตรนี้ ครูดานิ เลือกใช้น้ำมันมะพร้าวนะคะ
และเลือกใช้น้ำมันมะพร้าวที่อินฟิวด้วยอะโวคาโด้คะ
สูตรสบู่เกลือทะเล
วิธีการอ่านค่าในสูตรนี้ จากตาราง
1. % ของน้ำที่อยู่ในสบู่ ให้ค่า 33% นั้นหมายความว่า การทำสบู่ แบบ CP หรือกวนเย็น ควรที่จะใช้ %ของน้ำ ที่ 30-33% เพราะถ้าเราใช้ %ของน้ำเยอะ เราก็ต้องตากสบู่เพื่อให้น้ำระเหยออกนานขึ้น กว่าที่สบู่จะก้อนแข็ง
2.Super Fat อยู่ที่ 8.8%
Super Fat หรือเรียกย่อ ๆ ว่า SF คือ % ของน้ำมันที่เหลืออยู่ในสบู่ของเรา ในสูตรนี้ SF 8.8 ก็หมายความว่า เมื่อน้ำมันทำปฎิกิริยากับโซดาไฟและเกิดเป็นสบู่แล้วจะมีน้ำมันเหลืออยู่ในสบู่ 8.8%
3.สรรพคุณน้ำมันที่ใช้ในสูตร
น้ำมันมะพร้าว ให้ฟองมาก มีค่าการชำระล้างสูงทำความสะอาดได้ดี เมื่อใช้จะรู้สึกผิวสะอาดหลังใช้ไม่เหนียวเหนอะหนะตัว เหมาะกับคนผิวมัน แต่ถ้าใช้มากเกินไป อาจจะทำให้ผิวแห้งได้
น้ำมันละหุ่ง ให้ค่าบำรุงสูงมาก แต่ไม่มีค่าความสะอาดเลย ให้ฟองน้อย เหมาะกับคนผิวแห้ง ฟองที่ได้จะเป็นฟองเล็ก ๆ คล้ายเนื้อครีม
น้ำมันมะกอก เป็นน้ำมันอ่อน ที่ให้ค่าบำรุงผิว ไม่ทำให้สบู่แข็ง ไม่มีค่าการชำระล้าง แต่ที่พิเศษคือ น้ำมันมะกอกจะทิ้งเมือกเคลือบไว้ที่ผิวหนังหลังอาบน้ำ เหมาะกับคนผิวแห้ง
เชียบัตเตอร์ เป็นไขมันที่ทำให้สบู่แข็ง ใช้ทน ละลายช้า มีค่าความแข็งสูง เหมาะสำหรับผิวแห้ง เมื่อใช้แล้วจะทิ้งเมือกเคลือบผิวตามธรรมชาติ เหมือนน้ำมันมะกอก
4. ค่าสบู่ที่ได้
Hardness คือ ค่าความแข็งของสบู่ สบู่สูตรนี้จะได้ค่าความแข็ง 65
Cardness คือ ค่าการชำระล้าง สูตรนี้จะได้ค่าการชำระล้าง 50
Conditioning คือ ค่าความชุ่มชื้น สูตรนี้จะได้ค่าบำรุงที่ 27
Bubbly คือ ปริมาณของค่าฟองในสบู่ สูตรนี้จะได้ค่าฟอง 59
Creamy คือ ค่าความนุ่มนวลจะให้ฟองเป็นครีม แน่น ละเอียด 23
ฉะนั้นสบู่เกลือสูตรนี้
จะได้ก้อนที่แข็ง ค่าการทำความสะอาดได้สูง ชวยในเรื่องของการบำรุงน้อย เหมาะสำหรับคนผิวมัน มีฟองเยอะ ฟองนุ่มเป็นครีมละเอียด
ส่วนผสม มีดังนี้
-น้ำมันมะพร้าวอินฟิวอะโวคาโด้ 525 กรัม
-น้ำมันละหุ่ง 70 กรัม
-น้ำมันมะกอกโพมาช 35 กรัม
-เชียบัตเตอร์ 70 กรัม
-น้ำกลั่น 231 กรัม
-โซดาไฟ 108 กรัม
-เกลือแบบเม็ดละเอียด 350 กรัม (จะใช้เกลือทะเล หรือเกลือสีชมพูก็ได้)
-ผงทานาคาร 1 ช้อนชา
-สีไมก้า สีตามชอบ
ข้อควรระวังในการทำ
1.ควรมีผ้าปิดจมูกและใส่ถุงมือยาง เวลาละลายโซดาไฟ เพื่อป้องกันไอระเหย
2.ควรเทโซดาไฟลงในน้ำกลั่น ห้าม เทน้ำกลั่นลงในโซดาไฟโดยเด็ดขาด
3.เวลาปั่นสบู่ ควรมีแว่นตากันน้ำด่างกระเด็ด
4.ควรทำสบู่ CP ด้วยความระมัดระวัง เพราะในน้ำด่างยังมีโซดาไฟอยู่
วิธีการทำ
1. ชั่่งน้ำมัน ทุกชนิด ลงในกะละมังผสม
2.นำเชียบัตเตอร์ไปหลอมให้ละลาย แล้วนำมาเทรวมกับน้ำมัน
3.ละลายโซดาไฟ ด้วยน้ำกลั่น คนให้โซดาไฟละลายจนหมด (ให้เทโซดาไฟลงในน้ำกลั่นเท่านั้น ห้าม เทน้ำกลั่นลงในโซดาไฟโดยเด็ดขาด)
4.เทน้ำด่าง ลงในน้ำมัน คนหรือปั่นให้เข้ากันจนข้น
5.ใส่ผงทานาคาลงไป ใส่สีลงไป คนให้เข้ากัน
6.ใส่เกลือบดละเอียดลงไป คนให้เข้ากัน
7.ใส่น้ำหอมลงไป คนให้เขากัน แล้วรีบเทลงโมล
8.วางทิ้งไว้ ให้แข็งประมาณ 1-2 ชั่วโมง
9.แกะสบู่ออกจากโมล แล้วตัดเป็นก้อน ๆ
10.วางสบู่ที่ตัดแล้วพี่งไว้ประมาณ 4 สัปดาห์ จึงนำไปใช้ได้
ทำสบู่ได้ง่าย ๆ คุณก็ทำได้ เช่นกัน
อยากทำสบู่ได้ อยากทำสบู่เป็น
อยากทำสบู่ใช้เองแต่ไม่มีพื้นฐานใด ๆ เลย
ครูดานิแนะนำคู่มือการทำสบู่
สูตรสร้างอาชีพ ทักมาได้นะคะ
Line : @127wsjci
หรือทางข้อความเพจ : สอนทำสบู่ เรียนทำสบู่ สอนออนไลน์ ครูดานิ
หรือเข้าไปเยี่ยมชมเวปไซด์ได้คะ
www.danidanisoap.com
-คู่มือการทำเบสสบู่ เช่นเบสใส เบสขุ่น เบสสมุนไพร แถมการทำสารสกัด การทำสบู่กลีเซอรีน
-คู่มือสบู่น้ำมัน มีสูตรการทำสบู่น้ำมัน 20 กว่าสูตร แถมการทำแชมพูบาร์ สบู่ก้อนสระผม
-คู่มือการทำสารสกัด มีวิธีการทำสารสกัด 100 กว่าสูตร คุณสามารถทำสารสกัดขายได้เลย
-คู่มือการทำสบู่กรีเซอรีน มีสูตรสบู่กลีเซอรีน 70 กว่าสูตร เป็นไอเดียให้กับคุณในการสร้างแบรนด์
-คู่มือการทำครีม มีสูตรและวิธีการทำครีม โลชั่น เซรั่ม เช่น ครีมทาฝ้า ครีมกันแดด โลชั่นผิวขาว
-คู่มือการทำสบู่เหลว มีสูตรและวิธีการทำทำสบู่เหลวธรรมชาติ และจากหัวสบู่ แถมการทำน้ำยาเอนกประสงค์ แบบธรรมชาติ
-350 เคล็ดลับ สำหรับมือใหม่หัดทำสบู่
มีเทคนิค และเคล็ดลับต่าง ๆ สำหรับทำคนที่เริ่มต้นทำสบู่ เช่น
เคล็บลับการทำเบสใส เบสขุ่น เบสสมุนไพร
เคล็ดลับการทำสบู่กรีเซอรีน
เคล็ดลับการทำสบู่น้ำมัน
เคล็ดลับการทำสบู่เหลว
เคล็ดลับการทำสารสกัด
สบู่น้ำมันธรรมชาติ 100% สบู่ออแกนิค
คุณก็สามารถทำเองได้คะง่ายมาก ๆ ๆ
หันมาใช้สบู่ธรรมชาติปราศจากสารเคมีกันคะ
และคอร์สเรียนทางออนไลน์
คอร์สบุฟเฟต์เครื่องสำอาง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น