วันจันทร์ที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2562

Niacinamid ส่วนผสม ตัวที่ 1 ที่มีอยู่ในครีมบำรุงผิว สูตรลดฝ้า -ครูดานิ

     







    
        คุณรู้หรือไม่ว่า ส่วนผสมในครีมบำรุงผิวลดฝ้าสูตรนี้ครูดานิใส่  Niacinamid หรือวิตามิน B3 ด้วยแล้ววิตามิน B3 มันช่วยเรื่องอะไร ทำไมครูดานิจึงเลือกสารตัวนี้มาเป็นส่วนผสมในสกีนแคร์สูตรนี้ มาดูกันคะ  

       ในบรรดาปัญหาผิวต่างๆ ที่กังวลกัน คงจะไม่พ้นเรื่อง สิวและผิวที่ไม่เรียบเนียนสม่ำเสมอ มันเป็นปัญหาที่น่าปวดหัว 

       อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะเป็นสิวอุดตัน อักเสบ มีรอยแดง หรือรูขุมขนไม่กระชับ 
      ปัญหาผิวเหล่านี้สามารถรักษาและฟื้นฟูได้ด้วยสกินแคร์ และส่วนผสมในสกินแคร์ที่ครูดานิอยากให้สาวๆ โฟกัสกันในวันนี้ก็คือ Niacinamide 
      ซึ่งครูดานิเชื่อว่าสาวๆ ที่เป็นสาวกสกินแคร์หลายคนอาจจะคุ้นชื่อและทราบประโยชน์คร่าวๆ ของสารบำรุงผิวตัวนี้ว่าช่วยในเรื่องคุมความมันและลดการเกิดสิว กันบ้างอยู่แล้ว 
      อย่างไรก็ตาม Niacinamide ไม่ได้เพียงแค่ช่วยรักษาผิวที่มีปัญหาสิว แต่ยังเป็นส่วนผสมในสกินแคร์ที่ช่วยฟื้นฟูผิวในด้านอื่นๆ ด้วย วันนี้เราจะมาทำความรู้จัก Niacinamide กันเพิ่มขึ้น พร้อมด้วย 10 ประโยชน์ที่ส่วนผสมยอดฮิตตัวนี้มีต่อผิวหน้าของเรา
      Niacinamide หรือที่รู้จักกันในชื่อที่ออกเสียงง่ายขึ้นอย่าง วิตามินบี 3 ซึ่งอยู่ในกลุ่มวิตามินบีคอมเพล็กซ์ (B-Complex) หรือที่เรียกว่า Niacin (Nicotinic acid)

     วิตามินบี 3 หรือ Niacinamide นั้นเป็นวิตามินที่มีประโยชน์ต่อผิวของเราที่สามารถช่วยฟื้นฟูผิวได้อย่างครอบคลุม  เช่น
-ช่วยลดริ้วรอยและรอยแผลเป็นที่เกิดจากสิว 
-ช่วยลดอาการแดงและอาการระคายเคืองบนผิว 
-ช่วยกระตุ้นการผลิตเซราไมด์ (ceramide) ที่ช่วยให้ผิวกระชับและชุ่มชื้น ซึ่งจะส่งผลให้ผิวเรียบเนียนขึ้น -ช่วยกระชับรูขุมขนและคุมความมันบนผิว จึงเหมาะเป็นพิเศษสำหรับคนที่มีผิวมัน อย่างไรก็ตามเป็นส่วนผสมที่เข้าได้กับทุกสภาพผิว 

      เนื่องจาก Niacin เป็นวิตามินประเภทที่ละลายน้ำได้ สกินแคร์ที่มีส่วนผสมของ Niacinamide ที่เราจะใช้กันจึงมาในรูปแบบของเซรั่ม  ครีม โลชั่น และเมื่อเทียบกันกับสารประกอบที่มีฤทธิ์เป็นกรด เช่น วิตามินซี หรือ AHA และ BHA เป็นต้น   
      Niacinamide จะอ่อนโยนต่อผิวกว่าเพื่อนเพราะเป็นสารออกฤทธิ์ (Active Ingredient) ในสกินแคร์ที่ปราศจากกรดและการระคายเคือง
Niacinamide ทำงานอย่างไร?   
ทราบหรือไม่ว่าร่างกายของเราสามารถผลิต Niacinamide ได้ โดยทุกครั้งที่เราทานอาหารที่มีส่วนผสมของสาร niacin หรือวิตามินบี 3 สูง (อย่างเช่น อกไก่ อโวคาโด้ และ เห็ดเป็นต้น) ร่างกายของเราจะแปลง Niacin เป็นสารออกฤทธิ์ Niacinamide ซึ่งเป็นวิตามินที่สำคัญต่อระบบเผาผลาญ, การทำงานของระบบประสาท และการต่อต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งล้วนแล้วเป็นส่วนสำคัญของการทำงานของเซลล์ต่างๆ ในร่างกายของเรา รวมถึงการทำงานของเซลล์ผิว

เรามาดูประโยชน์ของ Niacinamide  กันคะ
1. ช่วยต่อต้านสารอนุมูลอิสระ   
ใครที่ผิวมันและไม่ถูกกับสารต้านอนุมูลอิสระอย่างวิตามินซี ก็ไม่ต้องกังวลว่าผิวจะยอมแพ้ให้กับอนุมูลอิสระที่ส่วนใหญ่มาจากมลภาวะและแสงแดด รวมถึงการใช้ชีวิตที่ส่งผลให้ผิวดูอิดโรย เพราะสาวๆ ที่มีความกังวลเรื่องผิวมันและผิวผสมทั้งหลายสามารถเปลี่ยนมาปกป้องผิวด้วยสกินแคร์ที่มีส่วนผสมของ Niacinamide ในการช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระบนผิวของเราได้ เนื่องจากมีความบางเบาและซึมไว จึงถือว่าเป็นเกราะป้องกันแบบที่ไม่ทิ้งความมันเยิ้มไว้บนผิวระหว่างวัน 
2.ช่วยลดเลือนรอยสิวและรอยแผลเป็น   นอกจากช่วยลดการเกิดสิวแล้ว Niacinamide ยังสามารถช่วยให้รอยสิวแลดูจางลง รวมถึงช่วยปรับสีผิวให้ดูสม่ำเสมอ
3.ช่วยลดเลือนริ้วรอย   จากผลวิจัยพบว่าสกินแคร์ที่มีส่วนผสมของ Niacinamide ที่มีความเข้มข้นอย่างน้อย 4 เปอร์เซ็นต์ช่วยลดเลือนริ้วรอยได้ โดย Niacinamide จะเข้าไปช่วยสร้างคอลลาเจนซึ่งจะทำให้ผิวเต้งตึงกระชับขึ้น
4.ช่วยลดเม็ดสีทำให้ผิวขาวสม่ำเสมอ  เมื่อผิวเกิดริ้วรอยและเริ่มสูญเสียความยืดหยุ่น ความเสื่อมชราของผิวหนังก็มาเยือน สาเหตุหลักๆมาจากการสร้าง collagen และ elastin ใน fibroblast น้อยลงเรื่อยๆ วิธีชะลอริ้วรอยที่แนะนำกันมากก็คือ กระตุ้นการสร้าง fibroblast และป้องกันไม่ให้โครงสร้างเส้นใย collagen ถูกทำลาย Niacinamide เป็นสารหนึ่งที่พบว่าสามารถช่วยเพิ่ม fibroblast และ collagen จึงเป็นสารที่ใช้ช่วยชลอริ้วรอยในผิวหนัง  Niacinamide Vitamin B3 กับการทำให้ผิวขาว มีสีผิวสม่ำเสมอ
5.ช่วยรักษาสิว  เนื่องจาก Niacinamide มีสรรพคุณช่วยต้านการอักเสบและลดเชื้อแบคทีเรียบนผิว  
การใช้สารฆ่าเชื้อในการรักษาสิว โดยทั่วไปอาจทำให้เกิดการระคายเคืองหรือแบคทีเรียเกิดการดื้อยาได้ จากการศึกษาของ Shalita colleagues แสดงให้เห็นว่า Niacinamide 4% มีประสิทธิภาพในการรักษาสิวเช่นเดียวกับการใช้ยา Clindamycin 1% และให้ประสิทธิภาพที่ดีกว่าด้วย
6.ช่วยบาลานซ์การผลิตน้ำมันในผิว โดยจะช่วยให้การผลิตน้ำมันในผิวสมดุลขึ้น ซึ่งต่างจากส่วนผสมคุมความมันบนผิวอื่นๆ ที่มักจะทำหน้าที่แค่รอดูดซับน้ำมันที่โผล่ออกมาจากผิว
7.ช่วยกระชับรูขุมขนและปรับสภาพผิวให้เรียบเนียน
ใครที่มีเรื่องของรูขุมขนกว้าง แนะนำว่าให้ลองใช้สกินแคร์ที่มีส่วนผสมของ Niacinamide ดู เนื่องจากเป็นส่วนผสมที่ช่วยควบคุมความมัน และเมื่อการผลิตน้ำมันในผิวสมดุลมากขึ้น สิ่งสกปรกก็ไม่สามารถเข้าไปอุดตันรูขุมขนได้ ก็จะช่วยให้รูขุมขนแคบลงและกระชับขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ผิวดูเรียบเนียน
8.ช่วยลดอาการแดงบนผิว  นอกจากเป็นส่วนผสมที่เหมาะกับคนที่มีผิวมันแล้ว ยังเหมาะสำหรับคนที่มีผิวบอบบาง มีรอยแดงได้ง่ายด้วย โดยจะช่วยลดอาการแดงของผิว รวมถึงสามารถช่วยฟื้นฟูผิว หรือผิวหนังอักเสบเรื้อรัง  นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ให้แก่ผิวของเราดูสุขภาพดี ยังช่วยให้ชั้นผิวของเราแข็งแรงขึ้นอีกด้วย
9. ช่วยบำรุงผิว  เนื่องจาก Niacinamide มีสรรพคุณช่วยบูสเซราไมด์ที่ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น 
เป็นการเพิ่มระดับเซรามาไมด์ของผิว ซึ่งการที่ผิวเรามีเซราไมด์เยอะนั้นจะทำให้ผิวเรากักเก็บความชุ่มชื้นได้ดีขึ้น เป็นเหมือนเกราะป้องกันผิวชั้นดี จึงสามารถช่วยฟื้นฟูผิวที่แห้งและขาดน้ำได้ เป็นวิตามินที่มีบทบาทในการบำรุงผิวไม่น้อย จากข้อมูลพบว่า Vitamin B3 มีส่วนช่วยให้กระบวนการเมตาบอริซึ่มของเซลผิว ทำให้เซลทำงานได้เป็นปกติ อีกทั้งยัง
10. ช่วยปกป้องผิวจากการทำร้ายของรังสี UV  หากมีกิจกรรมต้องโดนแดดตลอดเวลา กันแดดอย่างเดียวคงไม่พอ ควรมีสกินแคร์ที่มีส่วนผสมของ Niacinamide ไว้ช่วยฟื้นฟูผิวด้วย โดยผลวิจัยพบว่า Niacinamide สามารถช่วยซ่อมแซมเซลล์ผิวของเราหลังโดนแสงยูวีทำร้าย   เพราะแสงแดดเป็นสาเหตุหลักอันหนึ่งที่ทำให้เกิดการสร้างเม็ดสีในผิวหนังมากกว่าปกติ (hyperpigmentation) โดย melanocyte จะผลิต melanosome ซึ่งมี melanin อยู่ภายใน แล้วปล่อยเข้าไปใน keratinocyte ที่อยู่รอบๆ จากนั้น keratinocyte จะเคลื่อนขึ้นไปสู่ผิวชั้นบนของหนังกำพร้า ทำให้ผิวมีสีเข้มกว่าปกติหรือเป็นฝ้า กระ รอยด่างดำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ


ประโยชน์มากขนาดนี้ ครูจึงเลือกนำมาใส่ในสูตรครีมบำรุงผิวลดฝ้า ตอบโจทย์และแก้ปัญหาครบเลยคะ 

สนใจอยากใช้ครีม ทักมาคะ
Line:dani5642

ข้อมูล:
https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/24798949
https://theskincareedit.com/2018/12/13/niacinamide-skin-benefit

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น