วันพุธที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2562

ถ้าไม่อยากมีริ้วรอยก่อนวัย ....ห้าม!!!!! ทำแบบนี้





พฤติกรรมที่อาจทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควร เพื่อผิวสวยสดใส ดูเปล่งปลั่งเต่งตึงแบบสาวสุขภาพดี

ปฏิเสธไม่ได้ว่าริ้วรอยบนใบหน้านี่เป็นปัญหาใหญ่สำหรับผู้หญิงเรา ทั้งรอยเหี่ยวย่นบนหน้าผาก ร่องแก้ม รวมไปถึงตีนกา 

มักจะเกิดกับหญิงสาวสูงวัย แต่เดี๋ยวนี้เจ้าริ้วรอยกลับปรากฏกับหญิงสาวที่อายุยังไม่มากด้วยเช่นกัน สาเหตุอาจเป็นเพราะสาว ๆ เหล่านั้นมีพฤติกรรมที่อาจทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควร

เรามาดูกันเลยดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง เพื่อที่สาว ๆ จะได้สำรวจตัวเองและหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเหล่านี้กันค่ะ

1. การนอนคว่ำทำให้หน้าเราถูกกดทับ


    การนอนคว่ำทำให้ใบหน้าของสาว ๆ โดนกดทับกับหมอนตลอดทั้งคืน อีกทั้งครีมบำรุงหรือเซรั่มต่าง ๆ ที่ทาทิ้งไว้ก่อนนอนก็จะไม่ได้ผลอย่างเต็มที่
เพราะถูกเช็ดออกด้วยปลอกหมอนนั่นเอง 
   ส่วนการนอนตะแคงซ้ายหรือขวาก็เพิ่มริ้วรอยบริเวณแก้มและคางเช่นกัน ดังนั้นท่านอนที่ดีที่สุดคือนอนหงาย เพราะใบหน้าของเราจะไม่โดนกดทับและสัมผัสกับอะไรเลย



2. ชอบทานของหวานเป็นชีวิตจิตใจ

    ของหวานนี่ถือว่าเป็นทั้งลูกรักและลูกชังของสาว ๆ เลยทีเดียว เพราะตอนกินเข้าไปก็อร่อยมีความสุข แต่พอกินเสร็จก็ดันมาสำนึกผิดถึงแคลอรีที่ต้องกำจัดออกไป แต่ข้อเสียของมันไม่ได้มีเพียงเท่านั้นของหวานที่มีน้ำตาลมากยังทำให้หน้าสูญเสียความยืดหยุ่น ผิวไม่เรียบเนียน เกิดริ้วรอย เพราะถูกน้ำตาลทำลายโครงสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นผิวหนังของเรานั่นเอง
                      


3. ขี้เกียจทาครีมกันแดด


    แสงแดดเป็นศัตรูตัวฉกาจของสาว ๆ นอกจากจะทำให้ผิวคล้ำเสียแล้วยังเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดริ้วรอยต่าง ๆ บนใบหน้า ยิ่งบ้านเราร้อนขนาดนี้ ต่อให้ทำงานในที่ร่มหรือแทบไม่โดนแดดเลยแต่ผิวหนังของสาว ๆ ก็ยังโดนทำร้ายจากรังสียูวีอยู่ 

   ดังนั้นก่อนออกจากบ้านต่อให้ไม่แต่งหน้าก็สละเวลาทาครีมกันแดดสักนิดเนอะ
                         


4. ดื่มน้ำไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย


    ร่างกายของคนเราประกอบไปด้วยน้ำถึง 70% โดยเฉพาะน้ำที่ประกอบอยู่ในเซลล์นั้นมีมากถึง 60% ดังนั้นสาว ๆ ลองคิดดูนะคะว่าถ้าเซลล์เหี่ยวแล้ว ใบหน้าของเราก็จะแห้งและเกิดรอยย่นตามมาอย่างแน่นอน ดังนั้นเพื่อปกป้องไม่ให้เกิดรอยเหี่ยวย่น สาว ๆ ควรดื่มน้ำให้เพียงพอ 6-8 แก้วต่อวัน โดยการจิบทีละนิด ๆ ไม่จำเป็นต้องดื่มทีเดียวหมดแก้วก็ได้ค่ะ




5. อยู่ในที่ที่เต็มไปด้วยมลภาวะ


     สำหรับสาว ๆ ที่ใช้ชีวิตในเมืองใหญ่ ก็ไม่อาจเลี่ยงฝุ่นควันจากท่อไอเสียรถยนต์ได้เลย ซึ่งเป็นมลภาวะที่ทำร้ายผิวของเราโดยตรง ส่งผลให้ผิวของเราหยาบกร้าน เกิดรอยดำรอยแดง รวมไปถึงริ้วรอยต่าง ๆ ดังนั้นถ้าหากเป็นไปได้ สาว ๆ ควรจะหลีกเลี่ยงบริเวณที่เต็มไปด้วยควันจากท่อไอเสียรถยนต์ หรือไม่ก็ทาครีมบำรุง ดื่มน้ำและผลไม้จำพวกรสเปรี้ยวแทนนะคะ


                                  


6. ดื่มแอลกอฮอล์บ่อย ๆ


     แอลกอฮอล์เป็นเครื่องดื่มที่ทุกคนรู้ดีว่าส่งผลเสียต่อระบบร่างกาย ทำให้เกิดโรคต่าง ๆ แต่ไม่ใช่แค่นั้น เพราะการดื่มแอลกอฮอล์บ่อย ๆ ทำให้ผิวหนังของเราขาดน้ำ เสียความยืดหยุ่น และทำให้เกิดริ้วรอยได้ง่าย รู้แบบนี้แล้วสาวสังคมชอบปาร์ตี้ก็เพลา ๆ ลงหน่อยนะจ๊ะ ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวหน้าแก่ก่อนวัยไม่รู้ด้วยนะ



9. ชอบหยีตาหรือเพ่งสายตา


    ในขณะที่เราทำงานจ้องคอมพิวเตอร์นาน ๆ อาจไม่รู้ตัวว่าชอบหยีตา เพื่อเพ่งจอให้มองเห็นชัดมากขึ้น ซึ่งตรงนี้เองที่เป็นสาเหตุให้เกิดริ้วรอยบริเวณหน้าผากและหางตา ดังนั้นสาว ๆ ที่รู้ตัวว่าชอบเพ่งสายตาควรไปพบจักษุแพทย์เพื่อตรวจวัดและหาแว่นสายตาที่เหมาะสมนะคะ





10. เครียดมากจนเกินไป

      อีกหนึ่งสาเหตุที่ไม่ควรมองข้าม เพราะเมื่อเวลาเราเครียด ร่างกายจะผลิตฮอร์โมนคอร์ติซอลไปทำลายคอลลาเจนใต้ผิวเรา ทำให้ใบหน้าเกิดริ้วรอยเหี่ยวย่น รวมไปถึงการแสดงท่าทางความเครียดอย่างคิ้วขมวด ก็ทำให้เกิดริ้วรอยบริเวณหน้าผากและหางตาได้เช่นกันค่ะ

สาว ๆ คนไหนที่รู้ตัวว่ามีพฤติกรรม 10 ข้อข้างต้นก็ปรับเปลี่ยนด่วน ๆ เลยนะคะ ไม่อย่างนั้นริ้วรอยได้ถามหาก่อนวัยอันควรแน่นอน พอถึงเวลานั้นแล้วต่อให้ครีมหรือเลเซอร์ที่ไหนก็ไม่อาจทำให้ผิวหน้าของเรากลับมาเรียบเนียนได้ดังเดิมแล้วล่ะ



ข้อมูลจาก : bustle.com และ allwomenstalk.com
เครดิต: เว็บกระปุก

วันอังคารที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2562

10 สูตร น้ำสมุนไพรแช่ตัว คนเข้ามาอ่านเยอะมากถึง 1000 ครั้งเลย...!!!




ผิวขาวราวน้ำนม เคยได้ยินประโยคแบบนี้ไหมคะ
เคยสงสัยไหมคะ ว่าทำไมผู้หญิงบางคนผิวถึงขาวกระจ่างใส เหมือนอาบน้ำแร่ แช่น้ำนม  

คุณดูแลผิวพรรณของคุณอย่างไรคะ ถ้าเราอยากผิวขาวกระจ่างใส ต้องแช่น้ำนมอย่างเดียว ไม่จำเป็นแล้วคะ เดียวนี้มีการอาบน้ำด้วยสมุนไพรสด หรือด้วยสบู่สมุนไพร ผิวก็ขาวกระจ่างใสได้

ครูดานิ จะแนะนำสูตรบำรุงผิวด้วยการแช่น้ำสมุนไพรสด  น้ำสมุนไพรเป็นทางเลือกที่ดีมีประโยชน์มากมายต่อสุขภาพผิวกายของเรา ช่วยให้ร่างกายสดชื่นกระปรี้กระเปร่า ลดอาการเมื่อยล้าอ่อนแรง ลดความเครียด ช่วยให้สมองโปร่งใส อารมณ์แจ่มใส และส่งผลดีต่อผิวหนังทุกส่วนของร่างกายด้วยการบำบัดบำรุงผิวพรรณให้สะอาดสะอ้านผ่องใส และเนียนนุ่มเปล่งปลั่ง

ปัจจัยหลัก ๆ ในการอาบน้ำด้วยสมุนไพร คืออุณหภูมิของน้ำเวลาแช่ตัว ส่วนผสม ส่วนประกอบในการเลือกสมุนไพร ล้วนจำเป็นต้องรู้ก่อนที่จะอาบน้ำสมุนไพรสรรพคุณของสมุนไพรแต่ละตัวว่าช่วยเรื่องอะไร เหมาะกับผิวของเราหรือไม่

ขั้นตอนการแช่น้ำสมุนไพร

1.เตรียมภาชนะสำหรับแช่ (ถังไม้ หรือ อ่างอาบน้ำ) ทำความสะอาดให้หมดจด
2.นำสมุนไพรที่เตรียมไว้ ใส่ลงไปในอ่างแช่ตัว
3.นำผลไม้ ล้างให้สะอาด ปอกเปลือกแล้วปั่นให้ละเอียดกรองเอาน้ำหรือใส่ทั้งเนื้อก็ได้ ใส่ลงไปในอ่างแช่ตัว (ไม่ต้องกรองก็ได้ถ้าปั่นละเอียดพอ)
4.จากนั้นนำน้ำอุ่นจัดใส่ลงไปเป็นอย่างสุดท้าย กะปริมาณให้ได้สามส่วนของพื้นที่ (หรือระดับน้ำให้เลยครึ่งอ่าง)
5.คนส่วนผสมทั้งหมดเข้าด้วยกัน แล้วอาบแช่น้ำขณะที่น้ำยังอยู่ที่อุณหภูมิ 36 องศาเซลเซียส
6.ก่อนลงแช่น้ำสมุนไพร ควรอาบน้ำล้างตัวให้สะอาดก่อน พอจะลงแช่น้ำให้วักน้ำลูบไล้ให้ทั่วผิวกาย ไล่จากลำคอลงมา แล้วจงขัดถูเบา ๆ แล้วจึงลงแช่ตัวในอ่างน้ำ

สูตรการทำน้ำสมุนไพรแช่ตัว สูตรที่ 1

ส่วนผสม

1.น้ำคั้นจากผลไม้ เช่น ส้ม สัปปะรด มะเฟือง แตงโม มะขามเปียก ฯลฯ  ประมาณ 1 ถ้วยตวง
2.ใบส้มป่อยบด ขมิ้นชันบด ไพลสดบด 1 ถ้วยตวง
3.พิมเสน   1 ช้อนโต๊ะ
4.น้ำอุ่น ตามสะดวก

สูตรการทำน้ำสมุนไพรแช่ตัว สูตรที่ 2

ส่วนผสม

1.น้ำคั้นจากผลไม้ เช่น ส้ม แครอท แตงกวา มะเขือเทศ ผักกาดหอม ผักขม  ฯลฯ  ประมาณ 1 ถ้วยตวง
2.ใบมะขาม มะกรูดสด ไพลสดบด อย่างละ 1 ถ้วยตวง
3.แป้งขาวโพด   1 ถ้วยตวง (นำแป้งข้าวโพด 1 ส่วนละลายน้ำสะอาด 1 ส่วน จะได้น้ำนมเข้มข้นจากแป้งข้าวโพด)
4.น้ำอุ่น ตามสะดวก

สูตรการทำน้ำสมุนไพรแช่ตัว สูตรที่ 3

ส่วนผสม

1.น้ำผึ้งบริสุทธิ์
2.ไพล ขมิ้นสด ใบมะขาม
3.น้ำมะขาม
4.น้ำอุ่น ตามเหมาะสม

สูตรการทำน้ำสมุนไพรแช่ตัว สูตรที่ 4

ส่วนผสม

1.น้ำนมจากธัญพืช เช่น ข้าวโอ๊ต ข้าวบาร์เลย์ ถั่วเหลืองดิบ ข้าวโพดหวานดิบ  ลูกเดือยดิบ งาดำดิบ (เติมน้ำสะอาดปั่นให้ละเอียด)
2.ไพล มะกรูด ใบมะขาม ตะไคร้
3.ผงกระแจะจันทน์
4.น้ำอุ่น ตามเหมาะสม

สูตรการทำน้ำสมุนไพรแช่ตัว สูตรที่ 5

สูตรนี้เหมาะกับทุกสภาพผิว

ส่วนผสม
1.ตะไคร้สด  ต้มด้วยน้ำ 1 ลิตรจนน้ำเป็นสีเขียวอ่อน ๆ  
2. สะระแหน่  ว่านหางจระเข้
3.ไพล    ใบมะขามสด   รากหรือผงชะเอมเทศ
4.น้ำตาลทรายแดง
5.น้ำอุ่น ตามเหมาะสม

สูตรการทำน้ำสมุนไพรแช่ตัว สูตรที่ 6

ส่วนผสม

1.ดอกไม้สด  เช่น กุหลาบ ลีลาวดี พุดซ้อน ดาวเรือง มะลิ แก้ว จำปี จำปา (เด็ดออกเป็นกลีบ ๆ อย่าให้ช้ำ)
2. ขมิ้นชัน ไพลสด มะกรูดสด
3.น้ำข้าวโอ๊ต (ข้าวโอ๊ตแช่ในน้ำอุ่นให้นิ่ม เติมน้ำสะอาดแล้วปั่นให้เป็นเนื้อครีมข้น)
4.น้ำอุ่น ตามเหมาะสม

สูตรการทำน้ำสมุนไพรแช่ตัว สูตรที่ 7

ส่วนผสม

1.น้ำนมสด  3 ถ้วยตวง
2. ขมิ้นชัน ไพลสด  สะระแหน่  ใบมะขาม อย่างละ 1 ถ้วยตวง
3.น้ำผึ้ง  1 ถ้วยตวง
4.น้ำอุ่น ตามเหมาะสม

สูตรการทำน้ำสมุนไพรแช่ตัว สูตรที่ 8

ส่วนผสม

1.เบียร์สด  3 ถ้วยตวง
2. น้ำต้มสมุนไพร เช่น ไพลสด สะระแหน่ ใบมะขามสด (น้ำ 1 ลิตร ตั้งไฟใส่สมุนไพรลงไปต้มให้สมุนไพรละลายหรือรอให้เดือดสัก 20 นาที กรองเอาแต่น้ำมาใช้)
3.ดอกไม้ เช่น กุหลาบ มะลิ ดาวเรือง จำปี มะลิ (เด็ดกลีบใส่ลงไป)
4.น้ำอุ่น ตามเหมาะสม

สูตรการทำน้ำสมุนไพรแช่ตัว สูตรที่ 9

ส่วนผสม

1.น้ำช็อคโกแลตดำหรือช็อคโกแลตขาว 2-3 ถ้วยตวง (ช็อคโกแลต 1 ถ้วยตวงละลายน้ำร้อน 1 ถ้วยตวง)
2. น้ำต้มสมุนไพร เช่น ตะไคร้สด ไพลสด สะระแหน่ ใบมะขามสด (น้ำ 1 ลิตร ตั้งไฟใส่สมุนไพรลงไปต้มให้สมุนไพรละลายหรือรอให้เดือดสัก 20 นาที กรองเอาแต่น้ำมาใช้)
3.ดอกไม้ เช่น กุหลาบ มะลิ ดาวเรือง จำปี มะลิ (เด็ดกลีบใส่ลงไป)
4.น้ำอุ่น ตามเหมาะสม

สูตรการทำน้ำสมุนไพรแช่ตัว สูตรที่ 10

ส่วนผสม

1.น้ำชาเขียว  3 ซอง (ชาเขียว แช่น้ำร้อน 1 ลิตรจนเป็นชาเข้ม)
2. น้ำต้มสมุนไพร เช่น ตะไคร้สด ไพลสด สะระแหน่ ใบมะขามสด (น้ำ 1 ลิตร ตั้งไฟใส่สมุนไพรลงไปต้มให้สมุนไพรละลายหรือรอให้เดือดสัก 20 นาที กรองเอาแต่น้ำมาใช้)
3.การบูรบดละเอียก 1 ช้อนโต๊ะ
4.ดอกไม้ เช่น กุหลาบ มะลิ ดาวเรือง จำปี มะลิ (เด็ดกลีบใส่ลงไป)
5.น้ำอุ่น ตามเหมาะสม

น้ำสมุนไพรแช่ตัว ดีต่อสุขภาพผิวของเรา แต่ถ้ารู้สึกว่ายุ่งยากต้องเตรียมส่วนผสมมากมาย ต้องปั่น ต้องต้มสมุนไพร  ชีวิตคุณจะไม่ยุ่งยากอีกแล้ว ถ้าคุณใช้สบู่สมุนไพรลดฝ้าหน้าเด้ง และสบู่สมุนไพรลดสิว

ครูขอแนะนำสบู่สมุนไพร 2 สูตรนี้นะจ๊ะ ช่วยบำรุงผิวพรรณคุณได้เหมือนคุณนอนแช่สมุนไพรในอ่างน้ำเช่นกัน

สบู่รังไหม น้ำผึ้ง สูตรลดฝ้าหน้าเด้ง ช่วยลดฝ้า กระ จุดด่างดำ ผิวขาว กระจ่างใส ผิวเรียบเนียน และนุ่มนวล ผิวขาวอย่างเป็นธรรมชาติ มีส่วนผสมของ ขมิ้น ว่านนางคำ ไพลสด น้ำผึ้ง รังไหมฯลฯ  เมื่อใช้แล้วกลิ่นหอมติดตัวตลอดทั้งวัน

สบู่รังไหม น้ำผึ้ง สูตรเปลือกมังคุดลดสิว ช่วยลดสิวอักเสบ สิวผด สิววัยรุ่น ลดความมันบนใบหน้า ลดรอยดำที่เกิดจากสิวทำให้ผิวขาวกระจ่างใส และเรียบเนียนอย่างเป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับวัยรุ่น วัยว้าวุ่น วัยทำงานที่เป็นสิวขึ้นอยู่เป็นประจำมีส่วนผสมของเปลือกมังคุด ใบบัวบก ขมิ้น ฯลฯ ใช้แล้วสิวยุบจนคนรู้สึกว่าไม่เคยเป็นสิวมาก่อนเลย....การันตีจากคนเคยเป็นสิว




📌สอนปั้นแบรนด์ออนไลน์ สอนทำสบู่ เรียนทำสบู่ ครูดานิ
📌#Line ld : @127wsjci


วันศุกร์ที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2562

ทำอย่างไรให้ยอดขายออนไลน์ มีมาอย่างต่อเนื่อง


ทำอย่างไรให้ยอดขายออนไลน์ มีมาอย่างต่อเนื่อง

เปิดร้านขายของออนไลน์ใคร ๆ ก็อยากขายสินค้าให้ได้เยอะ ๆ จริงไหมคะ แต่จะทำอย่างไงดีนะ ให้สิ่งที่ต้องการเป็นความจริง ง่ายๆ ก็ทำตามแบบที่คนอื่นเขาทำเหมือนกันสิ

เราจะคิดแบบนี้ ก็ไม่ผิดคะ แต่อย่าสงสัยก็แล้วกัน ว่าทำไมร้านของเรามันไม่รุ่งกับเขาซะที ไม่ค่อยมีคนเข้ามาชมและซื้อสินค้าเลย และหากร้านค้าของคุณเงียบเหงาเป็นเวลานาน ๆ  คำว่าเจ๊งจะมาเคาะประตูเรียกได้นะคะ
ประเด็นก็คือ พอคุณทำอะไรเหมือนๆกับคนอื่น ลูกค้าก็คิดว่า เลือกซื้อกับใครก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นคุณหนิคะ
วันนี้ครูดานิเลยมี เทคนิคสร้างความแตกต่าง บนโลกออนไลน์มาฝากกันคะ มาดูว่าเราจะทำอะไรให้แตกต่างได้บ้างคะ

1.อย่าเน้นทำโฆษณามากเกินไปแต่หันมาทำคอนเทนต์ให้มาก
จะว่าไปแล้วโลกในยุค 2017  ต่างจากยุคที่การโฆษณาเคยรุ่งเรืองมากแบบคนละเรื่องกันเลยนะคะ
เราจะเห็นว่าปริมาณของสื่อหรือข้อมูลข่าวสารเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว พอข้อมูลมากเกิน คนก็จะตัดข้อมูลที่ไม่น่าสนใจออก
ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ โฆษณาสินค้าทั้งหลายแหล่นั่นเอง สิ่งนี้บอกอะไรกับเราได้บ้าง คือ คนไม่ได้ต้องการจะซื้อสินค้าตลอดเวลา เขาเข้า Social Media หรือเล่นอินเตอร์เน็ต ส่วนใหญ่เพื่อความบันเทิง และรับข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับตัวเอง
เราต้องหันกลับมายอมรับความจริงที่ว่า การทำโฆษณาแบบเดิม ๆ นั้นมีประสิทธิภาพลดลงไปเรื่อย ๆ
ดังนั้น จะเป็นการดีกว่าไหม ถ้าจะทำการตลาดโดยไม่มุ่งเน้นการทำโฆษณาเหมือนเมื่อก่อน แต่หันมาผลิตคอนเท้นต์ที่มีคุณภาพแทนคะ ขณะที่คนส่วนใหญ่ยังคิดแต่จะขายของแหลก การทำคอนเทนต์ดีๆ จะสร้างความแตกต่างให้คุณได้แน่นอนครับ

2.ทำการตลาดให้ครบทุกช่องทางที่ลูกค้าอยู่
การมีหลายช่องทางก็เป็นการเพิ่มโอกาสในการทำการตลาดได้ง่ายขึ้น การมีเครื่องมือในการทำการตลาดที่หลากหลายย่อมเป็นผลดี ตรงกับกลุ่มเป้าหมายและตรงกับสภาวะการณ์ ที่ผู้คนเริ่มหันมาช้อปทางออนไลน์กันมากขึ้น
เวลาคนเราอยากได้ของอะไรสักชิ้นหนึ่ง สิ่งที่พวกเขาทำก็คือการค้นหาสินค้าบนกูเกิ้ล เมื่อเจอสินค้าที่ตนต้องการแล้ว
ก็ทำการตรวจสอบแต่ละเว็บไซต์ แฟนเพจ ว่าธุรกิจของคุณมีตัวตนจริง ๆ หรือไม่ หรือบางที ลูกค้าอาจเจอคุณก่อนผ่านแฟนเพจ แล้วเขาค่อยไปดูความน่าเชื่อถือผ่านเว็บไซต์ก็ได้
เมื่อเป็นเช่นนี้ ร้านค้าออนไลน์ของคุณจึงต้องมีข้อมูลครบถ้วนและสื่อสารออกไปในทุกช่องทางคะ
เว็บไซต์ก็ต้องมีแฟนเพจก็ต้องทำและถ้าลูกค้าเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ชอบเล่น Instagram คุณก็ต้องมี Instagram
ในขณะที่ร้านค้าออนไลน์ส่วนใหญ่ มีแต่เพจบนเฟซบุ๊ค การมีช่องทางสื่อสารครบวงจร นอกจากจะทำให้คุณแตกต่างยังช่วยให้ร้านมีความน่าเชื่อถือและมีผลต่อลำดับการค้นหาในกูเกิ้ลอีกด้วยคะ

3.อย่าขายแค่สินค้า จงขายประสบการณ์
คนส่วนใหญ่ยังคิดแต่จะขายสินค้าคะ แต่จริงๆแล้วลูกค้ายุคนี้ ต้องการมากกว่าสินค้า เช่น แพคเกจจิ้ง ก็เป็นประสบการณ์อย่างหนึ่ง เปรียบเหมือนหน้าตาของธุรกิจ ที่ลูกค้าเห็นแวบแรกแล้วก็หยุดดูด้วยความสนใจ หรือการบริการ ก็เช่นกัน
หากสินค้าดี แต่บริการแย่ ก็จบเห่ได้ง่ายๆคะ และยิ่งช่วยแก้ปัญหาให้ลูกค้าได้ดีกว่าเจ้าอื่นด้วย จะทำให้เกิดการบอกต่อ ส่งผลดีต่อธุรกิจเรา ให้ความสำคัญกับประสบการณ์ให้มากนะคะ แม้จะดูจับต้องยาก แต่ลูกค้าสัมผัสได้เสมอคะ
4.สร้างกลุ่มสังคมให้ลูกค้า
แทนที่จะเอาแต่ขาย หากเรากลายเป็นคนกลางในการสร้างสังคม ที่ให้ลูกค้าที่มีความสนใจสินค้าคล้าย ๆ กัน มาร่วมกันแสดงความคิดเห็น นำเสนอให้คำแนะนำ ข้อเสนอแนะ ในการใช้สินค้า มีปฏิสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน โดยเฉพาะกลุ่มทางเฟซบุ๊ค หรือไลน์

5.ดึงตัวตนออกมาใช้ในแบรนด์
ไม่มีอะไรแตกต่างไปกว่า การดึงตัวตนของตัวเองออกมาใช้กับแบรนด์แล้วคะ เพราะตัวเรานั้น มีเพียงคนเดียวในโลก ไม่มีใครเหมือน การดึงตัวตนคุณมาใช้ในแบรนด์ ย่อมไม่มีใครเลียนแบบได้แน่นอน เช่น ถ้าเราเคยเป็นเจ้าหน้าที่ไอที และชอบเลี้ยงแมว แล้วมาทำธุรกิจขายอาหารออนไลน์ ร้านค้าออนไลน์ของเรา  อาจตกแต่งด้วยรูปแมวน่ารัก กล่องแพคเกจจิ้งอาหาร ก็อาจเป็น Collection แมวเหมียว พร้อมมีเทคนิคเด็ดๆ เกี่ยวกับไอที แถมให้กับข้าวกล่อง
เราอาจคิดว่ามันดูตลก ดูไม่เข้ากัน แต่ลองทำดูสิคะ เอาเอกลักษณ์ของเราออกมาสิ แล้วเราจะไม่เสียใจเลยที่ลองทำ
โดยสรุป ช่วงนี้โลกเราเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วนับแต่มีอินเตอร์เน็ตเข้ามา การปรับตัวของแม่ค้าออนไลน์ในตลาดก็ต้องมีการปรับเปลี่ยนตาม อาศัยการวิเคราะห์การตลาดอยู่เสมอ เพื่อทราบความต้องการของลูกค้า และสนองตอบความต้องการ ให้ตรงจุดตรงใจด้วยการทำการตลาดที่เหมาะสม

https://taokaemai.com/author/tkm/

ทำครีมทาฝ้าใช้เองดีกว่า ซื้อทำไมในเมื่อทำเองได้





มาอวดครีมบำรุงหน้าและช่วยลดฝ้าในตัว 
       สาเหตุที่ทำครีมสูตรนี้ขึ้นมา เพราะครูดานิมีปัญหาผิวเยอะมาก เป็นฝ้า เป็นกระ  ริ้วรอยตามวัย ผิวหย่อนคล้อย รูขุมขนกว้าง หน้ามัน เป็นสิว หน้ากระดำกระด่าง ผิวไม่เรียบเนียบ  ชนิดที่ไม่ค่อยชอบส่องกระจกเลย  ไม่กล้ามองหน้าใครด้วย เพราะอายหน้าตัวเอง 

      ใช้ครีมยี่ห้อดัง ๆ มาเยอะมาก ก็ไม่เห็นจะสวยขึ้นมา  บางครั้งใช้แล้วหน้าแดง ใช้แล้วสิวเห่อก็มี ใช้แล้วหน้าคันผดขึ้นอีก  จึงได้เริ่มศึกษาข้อมูล สารแต่ละตัวว่ามีสรรพคุณอะไรบ้าง ช่วยเรื่องอะไร และใช้อย่างไร


      ได้ค้นคว้าสรรพคุณของสารแต่ละตัว ว่ามี สาเหตุที่ทำครีมสูตรนี้ขึ้นมา เพราะครูดานิมีปัญหาผิวเยอะมาก เป็นฝ้า เป็นกระ  ริ้วรอยตามวัย ผิวหย่อนคล้อย รูขุมขนกว้าง หน้ามัน เป็นสิว หน้ากระดำกระด่าง ผิวไม่เรียบเนียบ  ชนิดที่ไม่ค่อยชอบส่องกระจกเลย  ไม่กล้ามองหน้าใครด้วย เพราะอายหน้าตัวเอง 


      
     สรุปสารพวกนี้ ก็คือสารที่เขานิยมใส่ในเครื่องสำอางที่เขาทำขายตามเคาเตอร์แบรนด์นั้นเอง หาไม่ยาก  แต่เมื่อก่อนที่เราใช้แล้วไม่หาย ใช้แล้วสิวขึ้น ใช้แล้วหน้าแดง ก็เพราะมีสารบางตัวที่ไม่เหมาะกับผิวของเราผสมอยู่ในนั้นด้วยนั้นเอง 




     ทำครีมใช้เอง โครตที่จะง่าย ถ้าคุณบอกว่าไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรนี้เลยคะ
ทำแค่นี้เอง ง่ายมาก
แค่คุณมีเบสครีม คุณก็สามารถสร้างสรรค์ครีมอะไรก็ได้ เพื่อบำรุงบำเรอผิวของคุณ 
    เมื่อมีเบสครีม คุณจะทำโลชั่น ครีมทาผิว ครีมทาฝ้า ครีมสครับ สามารถทำได้หมด

     ครีมส่วนมากในท้องตลาด มันจะมีส่วนผสมของน้ำเยอะมาก วิตามินบำรุงผิวมีนิดเดียว

แต่ครึมที่เราทำเองเราสามารถใส่วิตามินที่ช่วยบำรุงผิวเราได้เยอะตามใจเรา

    มาดูส่วนผสมครีมทาฝ้าของครูดานิ กันคะ


-มีวิตามินบี 3

-อัฟฟ่าอาร์บูติน
-วิตามินอี
-สารลดเม็ดสีเมลามิน
-สารสกัดหัวไชเท้า
-สารสกัดเมล็ดองุ่น
ฯลฯ 

เยอะขนาดนี้ มั่นใจได้เลยคะว่า ฝ้าลด ฝ้าจาง หน้าขาวกันไปเลยคะ

ครูดานิ






วันพฤหัสบดีที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2562

ขนาดภาพ Facebook 2019 เรื่องควรรู้ของพ่อค้า แม่ค้าออนไลน์


ขนาดภาพ Facebook 2019 เรื่องควรรู้ของพ่อค้า แม่ค้าออนไลน์

การจะขายของออนไลน์ให้ยอดปังๆ ไม่ได้ขึ้นอยู่แค่สินค้าที่น่าสนใจเท่านั้นนะ แต่การจะโพสต์ภาพสินค้าลงบนเฟซบุ๊ค ก็เป็นส่วนสำคัญที่พ่อค้า แม่ค้าออนไลน์ทั้งหลายมองข้ามไม่ได้ เพราะการจัดวางรูปภาพให้ดูสวยงาม สะดุดตา และมีขนาดภาพที่พอดี ก็จะช่วยทำให้ภาพสินค้าที่เผยแพร่ออกไปดูชัดเจน และน่าช็อปมากยิ่งขึ้นนั่นเองค่ะ

ภาพปก (COVER PHOTO) และ รูปประจำตัว (PROFILE PHOTO)

เริ่มจากรูป Cover Photo ด้านบนสุดก่อนเลย รูปนี้ใช้ขนาด  851*315 ค่ะ เป็นขนาดมาตรฐานเดิม ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอะไรจากเดิม และถัดมานั่นก็คือรูป Profile Photo นั่นเอง ก็ยังคงใช้ขนาดเดิมนั่นก็คือ 180*180 หรือจะใช้เป็น 160*160 ก็ได้เหมือนกันค่ะ







 

และทั้งหมดนี้ก็คือขนาดภาพต่างๆที่ควรนำไปใช้อย่างยิ่ง ซึ่งสามารถนำการจัดวางภาพต่างๆเหล่านี้ไปประยุกต์ใช้กับคอนเทนต์ ทำให้คอนเทนต์นั้นดูสวยงาม และน่าสนใจมากยิ่งขึ้น โพสต์ก็ออกมาดูโดดเด่น แค่นี้ยอดขายปังๆ ก็คงไม่ไกลเกินเอื้อมแล้วล่ะค่ะ



5 วิธี ลงประกาศขายฟรี สินค้ายังไงให้คนเจอ ได้ขายของ


5 วิธี ลงประกาศขายฟรี สินค้ายังไงให้คนเจอ 
ได้ขายของ เพราะออนไลน์ทุกวันนี้เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตไปแล้วอยากรู้เรื่องอะไรหาคำตอบได้เกือบหมดด้วยเทพเจ้า Google ที่รู้ไปหมด อีกอย่างที่นิยมคือค้นหาและซื้อสินค้าออนไลน์ แล้วถ้าเราอยากขายแต่ไม่ใช่มืออาชีพจะทำอย่างไร ลองดูกันเลยบางกอกทูเดย์เรามีมาแนะนำ

1. หาแหล่งประกาศขายออนไลน์ต่างๆ เช่น ถ้าคุณต้องการขายสินค้าให้คนทั่วไป คุณก็โพสต์ขายได้ในเว็บลงประกาศขายฟรีต่างๆ หรือถ้าคุณมีกลุ่มลูกค้าหรือต้องการขายในระดับท้องถิ่นหรือจังหวัดที่อาศัยอยู่ ขึ้นอยู่กับสินค้าและบริการของคุณ ก็แนะนำว่าเว็บลงประกาศซื้อขายฟรีแต่ละจังหวัดก็ต้องลงก่อนที่อื่นเลย สรุปแบบง่ายๆคือว่า
คุณจะขายอะไร  ขายให้ใคร ที่ไหน ถ้าคุณแค่ขายของใช้มือสองหรือไม่ใช่แม่ค้าพ่อค้ามืออาชีพหรือทำเป็นอาชีพ ข้อนี้มือใหม่อย่างคุณก้ไม่ควรลืม
จะลงประกาศฟรีเว็บไหนดี ที่คนเข้าดูเยอะหรือค้นหาเจอง่าย ถ้าต้องการขายให้คนในที่อยู่จังหวัดเดียวกันแนะนำว่าเน้นลงเว็บท้องถิ่นเลยถ้ามี เพราะการค้นหาจะพบง่ายขึ้นหากเจาะจงลงไป
2. การลงข้อมูลรายละเอียดสินค้า ต้องลงตามจริง ถ้าถ่ายรูปสินค้าลง เป็นสินค้าของจริงไม่ได้ปรับสีภาพมากยิ่งดี ให้เหมือนของจริงได้ยิ่งดี อีกทั้งช่องทางติดต่อคุณด้วย ลงรายละเอียดต่างๆให้มากที่สุดและน่าสนใจที่สุด เมื่อเขียนเสร็จแล้วลองอ่านดูว่าถ้าเป็นตัวเราเองจะสนใจไหม..


3. คำนวณต้นทุนต่างๆ เช่นค่าส่งของให้เรียบร้อย จะส่งฟรีหรือไม่ฟรีก็แจ้งไปเลย ให้ลูกค้าเปรียบเทียบกับคนอื่นๆที่ลงขายสินค้าเดียวกันกับเราได้ เพราะจะประกอบการตัดสินใจของคนเลือกซื้อที่จะติดต่อเจ้าที่ให้ราคาดีที่สุดในสินค้าคุณภาพเท่ากันอย่างเดียวกัน

4. หลังจากโพสต์ขายสินค้าไปแล้ว ต้องหมั่นตรวจสอบ คำค้นหาหรือโพสต์ของเราด้วยว่าติดการค้นหาหรือยัง ถ้าหากยังไม่มีใครติดต่อมาเลย แล้วนำมาปรับปรุงการเขียนบรรยายครั้งต่อไป

5. โพสต์ให้ได้มากที่สุด ถ้าไม่ใช่เป็นการโปรโมทเว็บ หรือสร้างแบรนด์ การลอกข้อมูลเดิมมาโพสต์ ก็ไม่ต้องกังวล แต่ถ้าคุณต้องการขายสินค้าโดยเริ่มทำเว็บไซต์ แฟนเพจ หรือบล็อก การที่คุณโพสต์หัวข้อเดิมๆ รายละเอียดข้อความเดิมๆอาจจะโดนแบนจากเจ้าของเว็บลงประกาศนั้นๆได้ และที่สำคัญ Google อาจจะมองว่าคุณเป็นสแปมก็ได้ นั่นอาจจะทำให้อนาคตในการทำธุรกิจออนไลน์ของคุณดับวูบลงได้

ทั้งหมดนี้ เป็นแนวทางเบื้องต้นสู่การขายสินค้าออนไลน์ ทั้งขายสินค้าเป็นบางชิ้นของตัวเองที่ใช้แล้วหรือของมือสอง หรือกำลังจะเริ่มธุรกิจค้าขายออนไลน์ ซึ่งหลักสูตรการตลาดออนไลน์ไม่สูตรสำเร็จตายตัว นอกจากจะเก่งแล้วต้องเร็วและคิดก่อนทำก่อน จึงมีโอกาสกว่าคนอื่น ที่สำคัญวิธีการทำการตลาดในวันนี้ที่ได้ผลดีเยี่ยมวันพรุ่งนี้อาจจะใช้ได้ผลน้อยลงหรือใช้ไม่ได้เลยก็เป็นได้
ขอบคุณ KhonkaenSale.com ชุมชนซื้อขายออนไลน์

6 เทคนิค ขายของยังไงให้ ปัง!




6 เทคนิค ขายของยังไงให้ ปัง!
ไม่ว่าจะเป็นแม่ค้าพ่อค้าทั้งในออนไลน์หรือออฟไลน์ ไม่ว่าคุณจะทำการขายทั้งในประเทศหรือต่างประเทศก็ตาม หากพวกคุณไม่มีเทคนิคในการขาย มันก็ช่างยากเหลือเกินที่จะขายออก ดังนั้นวันนี้เรามี 6 เทคนิคง่ายๆมาให้สำหรับเจ้าของธุรกิจทั้งมือเก่าหรือมือใหม่ รายย่อยหรือรายใหญ่ ถ้ารู้สึกว่าขายของออกอยากเหลือเกิน จะทำอย่างไรก็ขายไม่ดี ลองมาทำตาม 6 เทคนิคง่ายๆที่ Rossie นำมาฝากแล้วลองไปปรับใช้ดูนะคะ รับรองปัง ปัง รวย รวย รวย อย่างแน่นอนค่ะ

ข้อ 1. มั่นใจในตัวเอง
(มั่นใจในตัวเองเพื่อที่จะให้ลูกค้าเชื่อมั่นในสินค้าของเรา)
ข้อ 2. ความกระตือรือร้น
(ถ้าลูกค้ามาซื้อของ เจ้าร้านดูเฉยๆไม่ทักทายไม่สอบถามหรือแนะนำสินค้าหรือบริการให้ลูกค้า  พวกเขาก็จะรู้สึกว่าเราไม่อยากขาย)
ข้อ 3. ต้องรู้ความต้องการของลูกค้า
ว่าลูกค้าต้องการอะไรโดยการสังเกต เพื่อที่จะได้เตรียมตัวว่าควรจะแนะนำโปรดักส์ไหนที่เหมาะกับลูกค้าและให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น
ข้อ 4. ต้องมีความอดทน
พยายามอธิบายและแนะนำผลิตภัณฑ์ พยายามพูดให้ดูดีดูเว่อร์เข้าไว้เวลาเล่าให้ลูกค้าฟัง จะทำให้ลูกค้าสนใจ
ข้อ 5. สำรวจร้านของคู่แข่งอย่างสม่ำเสมอ
ว่าเขาขายเป็นยังไง ต้องรู้ร้านไหนขายถูกกว่า หรือร้านไหนกำลังลดราคาอยู่ เพื่อมาปรับใช้กับร้านของตนเอง
ข้อ 6. ทำกิจกรรมบ่อยๆ
ให้คนรู้จักผลิตภัณฑ์ของเราห้ามอยู่นิ่งเฉย